เคล็ดลับและแรงบันดาลใจ
จากผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเส้นผมของยูนิลีเวอร์
การขัดผิว (Exfoliation) คือภาคปฏิบัติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพ เพื่อเปิดโอกาสให้ผิวใหม่ที่นุ่มละมุน ได้ออกมาอวดความเนียนสวยสดใส กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้ดูอ่อนเยาว์ สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีเม็ดสีสม่ำเสมอกว่าเก่า แล้วยังช่วยเปิดรับคุณค่าของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ทา ให้ซึมซาบล้ำลึกและเห็นผลดีขึ้น แต่การขัดผิวเป็นรูทีนที่สามารถทำทุกวันได้หรือเปล่านะ แล้วความถี่ในการขัดผิวควรทำบ่อยแค่ไหน วิธีการขัดผิวที่อ่อนโยนควรทำอย่างไร สัญญาณแบบไหนที่ผิวกำลังเตือนว่าคุณอาจขัดผิวมากเกินไปแล้ว รวมถึงขั้นตอนการบำรุงหลังขัดผิวที่สำคัญ เพื่อเติมความชุ่มชื้นและปกป้องผิวใหม่ที่เผยออกมา ลองมาหาคำตอบและเลือกความถี่ที่ใช่สำหรับผิวคุณไปพร้อมกันได้เลย
อันที่จริงการขัดผิวหลัก ๆ นั้นมี 2 แบบที่นิยม คือ การขัดผิวโดยกายภาพ (Physical exfoliation) ที่ใช้อุปกรณ์เป็นตัวช่วย เช่น ถุงมือ ใยบวบ ฟองน้ำ แปรง ฯลฯ และ การขัดผิวด้วยสารเคมี (Chemical exfoliation) เช่น AHAs, BHAs ต่างเป็นกระบวนการที่ช่วยให้ผิวดูมีสุขภาพดีขึ้น ด้วยการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก แต่ขอบอกเลยว่าไม่ควรทำทุกวัน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการทำร้ายผิว มากกว่าการช่วยกู้ผิวสวย เพราะการขัดผิวเป็นกระบวนการที่มีความเสี่ยง ทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวในระดับหนึ่ง แถมการขัดผิวบ่อยเกินไป ยังรบกวนเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ เช่น ทำให้ผิวบอบบาง ไวต่อการระคายเคือง แห้งกร้าน สูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ทางที่ดีควรปล่อยให้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วเสริมด้วยการขัดผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยความถี่ที่เหมาะสม สม่ำเสมอแต่ไม่เร่งรัดเกินไป จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพผิวในระยะยาวมากกว่า
ความถี่สำหรับการขัดผิว ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน เพื่อสร้างสมดุลที่ดีระหว่างการกำจัดเซลล์ผิวเก่า และการส่งเสริมผิวใหม่ให้แข็งแรง
ผิวบอบบางแพ้ง่าย (Sensitive skin)
ความถี่: 1 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อควรระวัง: ผิวประเภทนี้มีแนวโน้มเกิดปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ไม่เคยใช้มาก่อนได้ง่าย จึงควรค่อย ๆ ใช้ทีละน้อย เลือกสูตรอ่อนโยน ที่สำคัญต้องทดสอบผลิตภัณฑ์จุดเล็ก ๆ ตามข้อพับแขนก่อนการใช้จริง และอย่าผลัดเซลล์ผิวมากไปกว่านี้ เพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ทำลายเกราะป้องกันผิว จนทำให้ผิวยิ่งแพ้ง่ายมากขึ้น และควรงดการใช้อุปกรณ์ร่วมในการขัด
ผิวแห้ง (Dry skin)
ความถี่: 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อควรระวัง: ผิวแห้งมักขาดความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ การขัดผิวเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงควรเลือกวิธีที่ไม่ทำลายน้ำมันในผิว เพื่อป้องกันความแห้งและระคายเคืองมากขึ้น ซึ่งมักมีหลายคนเข้าใจผิดว่าผิวแห้งควรขัดผิวบ่อย เพื่อขจัดความหยาบกร้าน หรือเคลียร์อาการลอกขุย ลองใช้ AHAs เช่น กรดไกลโคลิก (Glycolic acid) กรดแลคติก (Lactic acid) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง กักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว
ผิวธรรมดา (Normal skin)
ความถี่: 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อควรระวัง: แม้เป็นสภาพผิวที่ดูมีความสมดุล สามารถใช้วิธีขัดผิวได้ทั้งแบบกายภาพและเคมี จะเลือกใช้ส่วนผสมของ AHAs หรือ BHAs ก็ได้ แต่ไม่ควรใช้พร้อมกัน และสังเกตผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผิวด้วย เช่น ความแห้งกร้าน รูขุมขนกว้างขึ้น
ผิวมัน (Oily skin)
ความถี่: 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อควรระวัง: สภาพผิวที่มักผลิตน้ำมันส่วนเกิน ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้ง่าย สามารถใช้ทั้งการผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีและแบบกายภาพ ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHAs เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) มีคุณสมบัติช่วยสลายคราบมันส่วนเกินที่ผิวชั้นบน แทรกซึมเข้ากำจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพและน้ำมันที่สะสม ทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน ลดโอกาสการเกิดสิว
ผิวผสม (Combination skin)
ความถี่: 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อควรระวัง: เป็นผิวที่ต้องการการดูแลแบบเฉพาะจุด สามารถใช้ทั้งการผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีและแบบกายภาพ แต่ควรเลือกใช้แบบสลับ ไม่ควรใช้พร้อมกันในครั้งเดียว บริเวณที่มีความมันมากช่วง T-Zone อย่างหน้าผาก จมูก และคาง ควรใช้ BHAs ช่วยละลายความมันส่วนเกิน ในขณะที่บริเวณข้างแก้มที่มีความแห้ง ควรใช้ AHAs เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น หรือระคายเคือง
คืนความชุ่มชื้น
ลูบไล้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ทั่วทันทีหลังขัดผิวเสร็จ เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป ในระหว่างกระบวนการ และฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ยิ่งถ้ามีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลม เช่น ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก ข้าวโอ๊ต ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เซราไมด์ (Ceramides) ก็จะช่วยลดอาการอักเสบ ความระคายเคือง หรือแม้แต่รอยแดงได้ดี
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
วาสลีน อินเทนซีฟ แคร์ อโล ซูธ โลชั่น (Vaseline Intensive Care Aloe Soothe Lotion) ปลอบประโลมผิว ลดอาการอักเสบระคายเคือง ด้วยส่วนผสมจากว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ บำรุงล้ำลึกสู่ชั้นผิว ให้ดูเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นยาวนาน
วาสลีน โปร เดอร์มา เอเอชเอ สมูทติ้ง บอดี้ โลชั่น 5 (Vaseline Pro Derma AHA Smoothing Body Lotion 5) โลชั่นเนื้อบางเบาที่ผสาน ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) และเซราไมด์ (Ceramides) ลดปัญหาผิวแห้งหยาบกร้าน มอบความเนียนนุ่มชุ่มชื้น ให้ผิวดูเรียบเนียน โกลว์ใส
สร้างเกราะป้องกันยูวี
ครีมกันแดดคือสิ่งจำเป็นที่ต้องทาในทุกวัน เพราะเซลล์ผิวใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทดแทน จะไวต่อความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดได้ง่ายขึ้น
งดใช้สารที่มีฤทธิ์แรง
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวซ้ำซ้อน เช่น เรตินอล หรือวิตามินซีเข้มข้น อาจก่อความระคายเคืองได้
หลีกเลี่ยงเมคอัพจัดเต็ม
ถ้าจำเป็นควรแต่งแบบบางเบา จะได้ไม่รบกวนผิวหน้าที่เพิ่งถูกขัดมามากเกินไป เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนและฟื้นฟูอย่างเต็มอิ่ม
การขัดผิวเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลความงามของผิวพรรณ แต่ควรทำตามความถี่ที่เหมาะสมกับสภาพผิวที่แตกต่าง แล้วอย่าลืมสังเกตสัญญาณเตือนจากผิว จะได้รับมือกับปัญหาที่สะท้อนออกมาได้ทันการณ์ เพื่อให้คุณมีผิวที่ดูเรียบเนียนกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ น่าทะนุถนอม