น้ำมันมะพร้าว บำรุงผิวกาย และประโยชน์ต่อสุขภาพ

น้ำมันมะพร้าว คือหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญแห่งความงาม และสุขภาพแบบองค์รวม เราจึงอยากชวนทุกคนมาเจาะลึกคุณสมบัติอันน่าทึ่ง จากสารสกัดธรรมชาติชนิดนี้ เพื่อค้นพบคุณค่าการบำรุงล้ำลึก ให้ผิวเปล่งประกายด้วยความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ปกป้องเซลล์ผิวจากอนุมูลอิสระที่คุกคาม เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ แล้วยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย ทั้งช่วยระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับคอเลสเตอรอล และสนับสนุนการทำงานของสมอง ด้วยวิธีใช้ที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน

น้ำมันมะพร้าว ได้มาจากการสกัดแยกน้ำมันออกจากเนื้อของผลมะพร้าว ยุคนี้มักเห็นในรูปแบบ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Virgin coconut oil) ที่ใช้วิธีสกัดเย็น (Cold-pressed coconut oil) เป็นการสกัดแยกน้ำมันออกจากเนื้อมะพร้าว โดยไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อน และไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปทางเคมี ทำให้คงคุณค่าต่าง ๆ ที่มีอยู่ไว้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่หืน แล้วยังมีลักษณะของกรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลปานกลาง (Medium chain fatty acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ดูดซึมได้เร็ว ถูกเผาผลาญได้ดี สะสมในชั้นเนื้อเยื่อไขมันในร่างกายน้อยกว่ากรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลยาว อย่างเช่น กรดไลโนเลอิก (Linoleic acid) ในน้ำมันถั่วเหลือง แล้วยังช่วยเพิ่มระดับไขมันตัวดี (HDL) มากขึ้น

1. เสริมภูมิ ต้านการอักเสบ

ในน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วย กรดลอริก (Lauric acid) ที่มีคุณสมบัติช่วยในการสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ฆ่าเชื้อโรค ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ลดอาการระคายเคืองผิว และลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ บรรเทาอาการของโรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โรคสะเก็ดเงิน รวมทั้งเพิ่มการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้

การใช้น้ำมันมะพร้าวทำ ออยล์ พูลลิ่ง (Oil Pulling) ซึ่งเป็นศาสตร์สืบทอดจากอินเดียมาแต่โบราณ ช่วยขจัดแบคทีเรียที่ซุกซ่อนอยู่ตามซอกเหงือกและร่องฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคทางช่องปาก ช่วยให้เหงือกอักเสบลดลง ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แทรกซึมได้ดี เหมาะแก่การทำออยล์ พูลลิ่ง มากกว่าน้ำมันชนิดอื่น

น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ทำงานดีขึ้น พลอยทำให้ระบบเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ช่วยในการเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้เกินความจำเป็น เช่น ไขมันในช่องท้อง ทำให้แลดูผอมลง ช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายหลายรายการ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไขมันพอกตับ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ

ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี หรือไขมันดีที่เรียกว่า HDL (High Density Lipoprotein) เป็นตัวนำคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์จากหลอดเลือดแดงไปทำลายที่ตับ ลดปริมาณไขมันชนิดร้ายอย่าง LDL (Low Density Lipoprotein) ที่มีส่วนทำให้เกิดการสะสมของไขมันในหลอดเลือดแดง จึงช่วยลดอาการตีบแคบลงของหลอดเลือดแดง ลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง

เราสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวแทนคลีนซิ่งได้ สำหรับการเช็ดทำความสะอาดผิวสเต็ปแรก ช่วยละลายเครื่องสำอาง ครีมกันแดด รวมถึงมาสคาร่า ที่มีส่วนผสมสูตรกันน้ำได้ดี แล้วค่อยตามด้วยคลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้า เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก และน้ำมันตกค้างบนใบหน้าให้หมดจดยิ่งขึ้น

2. ป้องกันปากแห้งแตกเป็นขุย

เวลาที่รู้สึกถึงริมฝีปากแห้งกร้าน แค่ใช้น้ำมันมะพร้าวสัก 1-2 หยด ลูบวนบนริมฝีปาก ให้ซึมซาบลงบำรุงล้ำลึก เรียวปากจะดูนุ่มฉ่ำชุ่มชื้น ลดความหมองคล้ำ ดูเรียบเนียนเปล่งปลั่ง แล้วยังสามารถใช้บำรุงริมฝีปากข้ามคืนแบบมาส์กได้ เพื่อตื่นมาพบกับความเอิบอิ่มที่ดูนุ่มนวลเต่งตึง

3. เติมความชุ่มชื้นให้ผิว

น้ำมันมะพร้าวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี เป็นตัวช่วยสำคัญในการเสริมชั้นไขมันธรรมชาติของผิว ลดการสูญเสียน้ำของชั้นผิว ด้วยการช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวที่แห้งแตก ลอกเป็นขุย โดยค่อย ๆ ใช้ทีละ 1-2 หยด วอร์มบนฝ่ามือ แล้วนวดวนตามผิวที่รู้สึกแห้งหร้าน โดยเฉพาะ ข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม หรือแม้แต่ส้นเท้า เพื่อความรู้สึกเนียนนุ่มชุ่มชื้น

4. ชะลอริ้วรอยแห่งวัย

สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะพร้าว ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ สาเหตุหลักของริ้วรอยก่อนวัย โดยวิตามินอีในน้ำมันมะพร้าว จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวคงความยืดหยุ่น ดูเนียนเด้ง แข็งแรง

5. บำรุงหนังศีรษะและเส้นผม

วิตามินและกรดไขมันที่จำเป็นตามธรรมชาติในน้ำมันมะพร้าว แทรกซึมลึกลงไปในแกนผมได้ดีกว่าน้ำมันส่วนใหญ่ ที่มักเคลือบอยู่แค่บริเวณผิวนอกของเส้นผม จึงช่วยบำรุงหนังศีรษะ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ลดไขมันที่สะสมในต่อมรากผม หากใช้เป็นทรีตเมนต์นวดบำรุงก่อนสระผม จะป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากการสระ ปลายผมดูเรียบลื่นไม่ชี้ฟู

ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เราแนะนำ

ด้วยความที่มีลักษณะเป็นน้ำมัน เราจึงควรเว้นระยะห่างในการใช้น้ำมันมะพร้าว ไม่ให้ถี่เกินไป โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวมัน เพราะอาจเคลือบสะสมบนผิวจนปิดกั้นรูขุมขน ทำให้เกิดสิวหรือผดผื่นได้ ควรสลับกับการใช้ผลิตภัณฑ์อื่น เพื่อเป็นตัวเลือกในการบำรุงและเติมความชุ่มชื้น ผิวของเราจะได้รับสารเปี่ยมคุณค่าหลากหลาย ตอบโจทย์ที่แตกต่างกัน เพื่อผิวที่สวยอย่างมีสุขภาพดี

ชิตร้า ไฮโดร คอลลาเจน ไบรท์ โลชั่น โทเมโท (Citra Hydro Collagen Bright Lotion Tomato) ลูบไล้ผิวกายให้ดูโกลว์ใส อิ่มฟู ดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ด้วยเอสเซนส์ธรรมชาติเข้มข้น 100% สกัดจากมะเขือเทศและทับทิม ที่มาในรูปแบบเจลบำรุงสูตรบางเบา ชวนให้รู้สึกสดชื่นสบายผิว ช่วยให้ดูเปล่งประกายกระจ่างใส

วาสลีน เฮลธี้ ไบรท์ กลูต้า-ไฮยา เซรั่ม เบิสท์ ยูวี โลชั่น ฟลอเลส โกลว์ (Vaseline Healthy Bright Gluta-Hya Serum Burst UV Lotion Flawless Glow) สัมผัสบางเบาของโลชั่นที่แตกตัวเป็นน้ำ ซึมซาบลงสู่ผิว จะช่วยล็อคความชุ่มชื้น คืนความสมดุลตามธรรมชาติ เพื่อผิวที่นุ่มนวล ดูฉ่ำโกลว์ เนียนใส ลดเลือนจุดด่างดำ แล้วยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด

 อ้างอิงข้อมูล MedicalNewsToday, American Heart Association, Mahidol University